“Online จะยิ่งกว่าเติบโต..คือผู้บริโภคจะเคยชิน”
จากเหตุการณ์โรคระบาดที่บีบให้ผู้ซื้อหาช่องทางเข้าถึงสินค้า ส่วนผู้ขายก็หาช่องทางจำหน่ายกลไกพฤติกรรมในทิศทางเดียวกันนี้เองที่ทำให้กำเนิดเป็นความปกติรูปแบบใหม่ (New Normal) เพื่อตอกย้ำว่าช่องทาง Online กำลังครองโลก
และนี่คือ 3 คำตอบสุดท้ายที่จะทำให้คุณเลือก Online เป็นช่องทางหลักของแบรนด์นับแต่นี้ไป
1. ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมครั้งใหญ่:: จากที่แต่ก่อนทราบกันว่า Online Platform จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในกระแสธุรกิจ และภายในไม่กี่ปีจะกลายเป็นสื่อหลักนั้น าจเกิดขึ้นแล้วในปีนี้ เพราะสถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้ผู้บริโภคสูญเสียอำนาจพื้นฐานในการเลือกช่องทางการเข้าถึงสินค้า นำไปสู่การปรับตัวพร้อมกันเพื่อใช้งาน Online Platform อันเป็นช่องทางเชื่อมต่อกับแบรนด์ที่ยังคงมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ Growth rate ช่องทาง Online ดีดตัวขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน
ซึ่งก็ไม่แปลกเลยหากผู้บริโภคจะพัฒนาจาก “ลองใช้” ก้าวไปสู่ “ความเคยชิน” ด้วยเวลาเพียงไม่นาน เพราะหนึ่งในโจทย์สำคัญที่ผู้พัฒนาระบบต้องคำนึงถึงคือ “ความง่าย” ให้ผู้บริโภครู้สึกว่า platform ใช้งานได้สะดวก
จากข้อมูลของ Nielsen หนึ่งในบริษัทที่วิจัยด้านการตลาดเผยข้อมูลให้เห็นว่า ปัจจุบันผู้บริโภคเริ่มสั่งซื้อในรูปแบบ Auto Subscription ที่สามารถซื้อเพียงครั้งเดียว แล้วแบ่งส่งรายเดือนหรือสัปดาห์ มากถึง 48% เพราะสามารถลดขั้นตอนในการซื้อซ้ำได้ ไม่เท่านั้น เมื่อตัวเลือกช่องทางมีไม่มาก ยังส่งผลให้ผู้บริโภค “ยอม” แลกข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อเป็น Member ในการรับสิทธิพิเศษต่างๆ อีกด้วย นานไป.. จากเคยชิน ก็กลายเป็นชอบในที่สุด
2. เมื่อออนไลน์ขยายตัว โลจิสติกส์ก็ขยายตาม :: การขนส่งสินค้า ที่เป็นภาคส่วนสำคัญของการซื้อขายออนไลน์ก็ต้องขยายตัวเพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภค ที่สำคัญ..ทิศทางของธุรกิจโลจิสติกส์หลังการขยายตัวนี้ก็ย่อมมาพร้อมกับข้อเสนอมากมายเพื่อ “ดึงลูกค้า” ให้มาใช้บริการของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นค่าขนส่งที่ถูกกว่า การสะสมแต้มที่อาจนำไปใช้แลกสิทธิพิเศษ หรืออื่นๆ อีกมากมาย
สุดท้ายผู้ที่รับผลประโยชน์ไปเต็มๆ ก็คือผู้บริโภค..แล้วจะมีเหตุผลอะไรอีกล่ะ? ที่จะไม่สั่ง Online
3. Social media สู่ E-Commerce :: Platform Social media และ Chat App ยอดฮิตทั้งหลายก็ปรับตัวให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นอย่างไม่หยุดเพื่อตอกย้ำความเป็น “Social” อย่างแท้จริงที่ต้องรองรับทุกพฤติกรรมของผู้ใช้งาน ทีนี้เมื่อช่องทาง Social media สามารถทำหน้าที่ทดแทน E-Commerce ได้อย่างครบวงจร เพื่อให้ผู้ใช้บริการไม่ต้องเปลี่ยน Platform ในการ Shop Online แล้ว ก็ช่วยลดขั้นตอนและความเสี่ยงที่จะสูญเสียลูกค้าไปใน Customer journey ได้
Social media ที่ว่าผู้บริโภคเคยชินอยู่แล้ว ก็ยิ่งกลายเป็น Platform ประจำตัวของใครหลายคน
ทั้ง 3 ข้อที่กล่าวถึง ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเหตุผลมากมาย ที่จะย้ำเตือนกับเจ้าของแบรนด์ทุกคนว่าให้ “เตรียมตัว” สำหรับเครื่องมือการตลาดที่สามารถตอบโจทย์พฤติกรรม “New Normal” ในการนำผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าคุณในช่องทาง Online Platform ได้ก่อนใคร
คำถามต่อมาคือ เครื่องมือใดที่จะช่วยให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น..?
คำตอบง่ายๆ แต่ชัดเจน คือ Google Ads เว็บไซต์ Search Engine อันดับหนึ่ง
เพราะอะไรนั้น..เราจะขออธิบายง่ายๆ ดังนี้
เชื่อมต่อได้ทุก Platform ไม่ว่จะเป็น YouTube, Facebook, และที่สำคัญคือ Website ของคุณเอง
รองรับการค้นหาทั้งรูปแบบ Keyword และ Picture
“เลือกซื้อ” Keyword สำหรับชิ้นงานโฆษณาได้อิสระ และการตั้งค่ามากมายที่จะปล่อยให้คุณใช้เทคนิคต่างๆ ได้เต็มที่ให้โฆษณาไปปรากฏกับลูกค้าที่แท้จริงของคุณ
และด้วยคุณสมบัติการเป็น “ต้นทาง” ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำ แล้วยังมีอิสระสูงสำหรับการจัดสรรงบประมาณในการเปิดใช้งาน ทำให้ Google Ads ที่ก่อนหน้านี้ผลลัพธ์มากแค่ไหน New Normal จะยิ่งตอกย้ำความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น