Microsite จะมีหน้าเว็บเพจอยู่ที่ประมาณ 2-5 หน้า ซึ่งต่างกับ Sale page ที่มีเพียงหน้าเดียว โดย Microsite จะใส่ข้อมูลได้มากกว่า Sale page แต่ Sale page เองก็มีข้อดีตรงที่ไม่ซับซ้อน เนื่องจากเป็นเว็บเพจเพียงหน้าเดียว ก็สามารถทำได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก มีจุดประสงค์ในการสร้างที่เด่นชัด
ซึ้ง Microsite นั้น เหมาะสำหรับใช้ในการส่งเสริมแคมเปญต่าง ๆ ที่มีขนาดใหญ่และต้องการใส่รายละเอียดในจำนวนมากกว่า Sale page ที่มีเพียงหน้าเดียวอาจไม่เพียงพอต่อการใส่ข้อมูลได้ทั้งหมด เช่น การทำ CRM สำรวจข้อมูล เปิดโหวตความพึงพอใจของลูกค้า รวมไปถึงการทำแคมเปญชิงโชคที่ต้องการลงโฆษณาในช่องทางต่าง ๆ ก็จะสะดวกกว่าการใช้ Sale page โดยเมื่อเปรียบเทียบขนาดกันแล้ว Microsite ก็ถือว่ามีขนาดใหญ่กว่า Sale page ที่มีเพียงหน้าเดียวอยู่ไม่มาก ไม่น้อย
Microsite เองก็มีราคาที่ถูกกว่าการทำเว็บไซต์แบบเต็มรูปแบบอยู่แล้ว แถมยังเหมาะจะเป็นส่วนขยายให้คุณได้มีพื้นที่โปรโมทกิจกรรมต่าง ๆ ให้คุณสื่อสารกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงประเด็น แต่ Sale page นั้น ก็เหมาะกับการทำแคมเปญที่มีจุดประสงค์ไปทางโฆษณาสินค้าของคุณโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีช่องทางติดต่อ ช่องทางสั่งซื้อที่เจาะจงด้านการขายโดยตรง จะทำให้คนที่คลิกเข้ามาไม่เกิดความสับสน เพราะมีหน้าเพียงหน้าเดียว ซึ่งเหมาะกับการทำไว้เพื่อขายสินค้า ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ต้องการให้คนคลิกเข้ามาแล้วสามารถติดต่อการสั่งซื้อได้ทันทีมากกว่าทำแคมเปญส่งเสริมการตลาด
ทั้งนี้ Microsite และ Sale page ก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานตามความเหมาะสม หากคุณกำลังมองหาเครื่องมือทำการตลาดที่จะตอบโจทย์คุณได้อย่างตรงประเด็น ตรงกลุ่มเป้าหมาย แถมยังใช้เวลาในการพัฒนาไม่นาน และราคาไม่สูง Microsite ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สามารถตอบโจทย์ และมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก หากสนใจการทำ Microsite สามารถลงทะเบียนผ่านลิ้งก์ https://bit.ly/3yJsZ37 เพื่อรับส่วนลดพิเศษ และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ตลอด 24 ชั่วโมง